ค้าขายออนไลน์ อยากสร้างยอดขายให้ปัง จะเจาะกลุ่มลูกค้าแค่ตลาดในไทยไม่พอแน่นอนครับ อย่าลืมมองหาลูกค้าต่างประเทศ ที่อาจจะเป็นกลุ่มเป้าหมายของเราด้วย เมื่อเรามีลูกค้าชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในต่างประเทศนั้น สิ่งสำคัญที่จะลืมไม่ได้คือการเลือกบริการ ส่งของไปต่างประเทศ ที่จะช่วยพาสินค้าของเราไปถึงมือลูกค้าได้อย่างปลอดภัยที่สุด เพื่อสร้างความประทับใจตั้งแต่การสั่งซื้อครั้งแรกนั้นเองครับ
ดังนั้นวันนี้ Akita จะพามารู้จักกับผู้ให้บริการ ส่งของไปต่างประเทศ ที่คุณอาจจะได้ใช้บริการบ่อยๆ หลังจากนี้ มาดูกันว่าเจ้าไหนมีข้อดียังไง ตามไปอ่านกันเลยครับ
ข้อควรรู้ก่อน ส่งของไปต่างประเทศ
ก่อนที่เราจะทำการส่งพัสดุของเราไปในแต่ละประเทศนั้น การศึกษาข้อกำหนดข้อห้ามต่าง ๆ เป็นสิ่งสำคัญอย่างมาก เพราะในแต่ละประเทศจะมีข้อห้ามที่แตกต่างกันออกไป ที่เราอาจจะไม่เคยรู้มาก่อน และที่สำคัญไปกว่านั้น สำหรับพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ที่ต้องส่งของไปต่างประเทศจำนวนมาก ๆ อย่าลืมศึกษา ขั้นตอนการดำเนินงานกับศุลกากรเอาไว้ด้วยนะครับ เพราะการส่งสินค้าข้ามประเทศในจำนวนมาก ๆ อาจจะถูกตรวจสอบ ได้ในบางครั้งนั่นเอง
ไปรษณีย์ไทย

สำหรับพ่อค้าแม่ค้าชาวไทยอย่างเรา ๆ ถ้าคิดไม่ออกเลยว่าจะใช้บริการส่งของไปต่างประเทศอย่าลืมนึกถึงพี่ไปรษณีย์ไทยของเรานะครับ เพราะเขาเองก็มีบริการ ส่งแบบ EMS ไปต่างประเทศที่เรียกว่า EMS world นอกจากนี้ยังมีบริการเกี่ยวกับการส่งไปต่างประเทศอีกมากมาย ที่ผู้ใช้บริการสามารถเลือกได้โดยอิงจากความรวดเร็วในการส่งมอบของถึงมือผู้รับ แต่ต้องบอกก่อนว่ายิ่งของถึงไว ราคายิ่งสูงนะครับ แต่ทั้งนี้ผู้ใช้บริการก็สามารถเข้าไปตรวจสอบราคาได้ล่วงหน้าในเว็บไซต์ก่อนได้ครับผม
เนื่องด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โควิด-19 ในตอนนี้ ทำให้มีการระงับการจัดส่งในหลายประเทศ หรืออาจทำให้เกิดการจัดส่งล่าช้าในบางประเทศ สามารตรวจสอบและอัพเดทข้อมูลการจัดส่งสินค้าได้ ที่นี่เลยครับ
DHL

ผู้ให้บริการการส่งของไปต่างประเทศชื่อดังที่ใครก็ต้องรู้จัก ซึ่งสำหรับ DHL เค้ามีบริการจัดส่งสินค้าครอบคลุมถึง 220 ประเทศทั่วโลก ซึ่งผู้ใช้บริการสามารถใช้บริการผ่านแพลทฟอร์มที่มีชื่อว่า iexpress ที่สามารถ
- เช็คอัตราค่าบริการได้ล่วงหน้า
- จองคิวการจัดส่งและชำระค่าบริการได้ผ่านการตัดบัตรต่างๆ
- ทำการนัดหมายให้ผู้เจ้าหน้าที่มารับพัสดุที่บ้าน หรือ เลือกไปส่งที่จุดให้บริการเองก็ได้ครับ
เรียกได้ว่าครบจบในเว็บเดียวจริง ๆ ครับ อยากส่งของไปต่างประเทศ ทำได้ง่าย ไม่ต้องขยับออกจากบ้านแม้แต่ก้าวเดียว DHL ตอบโจทย์มาก ๆ ครับผม
ข้อควรรู้ : ตอนนี้ DHL ยังไม่มีบริการรับส่งของจำพวก อาการสด เช่น เนื้อสด ผัก-ผลไม้สด ไปต่างประเทศนะครับ
FedEx

อีกหนึ่งผู้ให้บริการส่งของไปต่างประเทศที่มีชื่อเสียงระดับโลก ที่เปิดให้บริการมาแล้วกว่า 25 ปี ยังไม่หยุดพัฒนาการบริการให้ดียิ่งขึ้นไปตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นการให้บริการขนส่งด้วย Boeing 777 การขยายสาขา จุดให้บริการมากมายไปยังหลายประเทศทั่วโลก รวมถึงเพิ่มจุดให้บริการในประเทศไทย นอกจากนี้ยังรวมไปถึงบริการส่งของถึงมือผู้รับที่รวดเร็วทันใจโดยใช้เวลาเพียงแค่ 1-3 วันทำการทั่วโลก (ทั้งนี้อย่าลืมศึกษาเงื่อนไขของแต่ละประเทศนะครับ) โดยผู้ที่สนใจใช้บริการสามารถตรวจสอบอัตราค่าบริการก่อนนำพัสดุไปฝากส่งได้ที่หน้าเว็บไซต์ของ FedEx เลยนะครับ
Ups

ผู้ให้บริการส่งของเจ้าดังในอเมริกา ในปัจจุบันมีสาขาที่เปิดให้บริการมีเฉพาะในกรุงเทพฯ และปริมณฑลเท่านั้น มีระยะเวลาการจัดส่งสินค้าถึงมือผู้รับ 3-5 วันทำการ โดยการจัดของพัสดุกับ Ups สามารถเลือกประเภทของการจัดส่งได้ว่าเป็นแบบบุคคลธรรมดาหรือแบบธุรกิจขนาดเล็กนั่นเองครับ ซึ่งถ้าเลือกเปิดบัญชีการจัดส่งแบบธุรกิจขนาดเล็กนั้นจะได้รับโปรโมชั่นส่วนลดต่าง ๆ ที่ช่วยเบาค่าใช้จ่ายในจุดนี้ได้ครับ เรียกได้ว่าตอบโจทย์ธุรกิจ SMEs มาก ๆ เลยครับ
และทั้งหมดนี้ก็คือผู้ให้บริการที่จะช่วยส่งของไปยังต่างประเทศ ให้ถึงมือผู้รับได้อย่างปลอดภัยนั้นเอง หวังว่าจะเป็นประโยชน์สำหรับพ่อค้าแม่ค้าคนไหนที่กำลังอยากจะเจาะกลุ่มลูกค้าชาวต่างชาติ หรือต้องส่งสินค้าออกไปต่างประเทศนะครับ อย่าลืมศึกษาให้ดีก่อน และถ้าไม่อยากปวดหัวเรื่องการ เก็บ แพ็ค หรือจัดส่งเองละก็ Akita Fulfillment พร้อมเป็นผู้ช่วยที่ทำให้การขายของคุณง่ายขึ้น
ติดต่อเรา
Add LINE: http://bit.ly/2O3nLFc
Inbox: m.me/akita.fulfillment/
โทร: 02-0263-250